ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พลังงานแสงอาทิตย์ กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับทั้งบ้านเรือนและภาคธุรกิจ เพราะนอกจากจะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้แล้ว ยังเป็นพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่ก่อนจะติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจว่าระบบมีกี่แบบ และแต่ละแบบมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง

1. ระบบออนกริด (On-Grid System)

ระบบออนกริด เป็นระบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันเพราะมีการเชื่อมต่อกับระบบสายส่งการไฟฟ้า (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้านครหลวง) โดยตรง ในเวลากลางวันเมื่อแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอต่อการใช้งาน ไฟฟ้าส่วนเกินจะถูกส่งย้อนกลับไปขายคืนให้กับการไฟฟ้า ช่วยสร้างรายได้เสริมได้อีกทางหนึ่ง

ข้อดี:

  • คืนทุนเร็ว: สามารถขายไฟส่วนเกินคืนให้การไฟฟ้าได้ ทำให้ลดระยะเวลาคืนทุนได้เร็ว

  • ประหยัดพื้นที่: ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่สำรอง ทำให้ประหยัดพื้นที่และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

  • ติดตั้งง่าย: มีขั้นตอนการติดตั้งที่ไม่ซับซ้อน และใช้งานได้ทันทีเมื่อระบบพร้อม

ข้อเสีย:

  • ไม่มีไฟฟ้าใช้เมื่อไฟดับ: หากระบบของการไฟฟ้าเกิดไฟดับ จะไม่มีไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ใช้ เพราะระบบจะตัดการทำงานเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่

2. ระบบออฟกริด (Off-Grid System)

ระบบออฟกริด หรือที่เรียกกันว่า ระบบสแตนด์อะโลน (Stand-alone) เป็นระบบที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองทั้งหมดโดยไม่เชื่อมต่อกับระบบของการไฟฟ้า เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือไม่ต้องการพึ่งพาระบบไฟฟ้าจากภายนอก

ข้อดี:

  • เป็นอิสระจากระบบไฟฟ้าภายนอก: มีไฟฟ้าใช้ได้ตลอดเวลา แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล

  • มีไฟฟ้าใช้ตอนไฟดับ: สามารถสำรองไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่เพื่อใช้งานได้ แม้ไฟจากการไฟฟ้าจะดับ

  • ไม่ต้องขออนุญาตการไฟฟ้า: ขั้นตอนการติดตั้งไม่ซับซ้อนเหมือนระบบออนกริดที่ต้องขออนุญาตขายไฟ

ข้อเสีย:

  • ค่าใช้จ่ายสูง: ต้องลงทุนซื้อแบตเตอรี่สำรอง ซึ่งมีราคาสูงและต้องมีการดูแลรักษาเป็นพิเศษ

  • พื้นที่จัดเก็บเยอะ: แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บ

  • การดูแลรักษา: แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานจำกัดและต้องเปลี่ยนใหม่เมื่อเสื่อมสภาพ

    Image Licensed by Google

    3. ระบบไฮบริด (Hybrid System)

    ระบบไฮบริด เป็นการรวมข้อดีของทั้งสองระบบเข้าไว้ด้วยกัน คือมีการเชื่อมต่อกับการไฟฟ้า และยังมีแบตเตอรี่สำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉินหรือช่วงที่แสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ

    ข้อดี:

    • มีไฟฟ้าใช้ตลอดเวลา: สามารถสลับไปใช้ไฟฟ้าที่สำรองไว้ในแบตเตอรี่ได้เมื่อไฟจากการไฟฟ้าดับ

    • บริหารจัดการพลังงานได้ดี: สามารถเลือกใช้ไฟฟ้าจากแหล่งต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งจากโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่ หรือการไฟฟ้า

    ข้อเสีย:

    • ค่าใช้จ่ายสูงที่สุด: เพราะต้องลงทุนทั้งระบบโซลาร์และแบตเตอรี่

    • ระบบมีความซับซ้อน: การติดตั้งและควบคุมระบบไฮบริดมีความซับซ้อนกว่าระบบอื่น


    บทความนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณนะครับ หากคุณต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม หรือกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านโซลาร์เซลล์ที่น่าเชื่อถือ ทีมงาน Ensowin ยินดีให้บริการคำแนะนำและติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่ได้มาตรฐานเพื่อบ้านและธุรกิจของคุณ